## อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มโลกยังไม่พร้อมรับมือภาษีและสงคราม

การวิจัยใหม่พบว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกยังขาดความพร้อมในการรับมือกับผลกระทบจากภาษีและสงคราม ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้สร้างความผันผวนและความไม่แน่นอนให้กับห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบ การขนส่ง และการเข้าถึงตลาด ความไม่พร้อมดังกล่าวอาจนำไปสู่การขาดทุนทางธุรกิจ การหยุดชะงักของการผลิต และปัญหาการขาดแคลนอาหาร

จากรายงานของ Food Navigator (อ้างอิง: [https://www.foodnavigator.com/Article/2025/03/12/how-prepared-are-food-is-drink-business-for-tariffs-and-war/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS](https://www.foodnavigator.com/Article/2025/03/12/how-prepared-are-food-is-drink-business-for-tariffs-and-war/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS)) พบว่าธุรกิจจำนวนมากยังไม่ได้เตรียมแผนรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเหล่านี้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มักมีทรัพยากรจำกัดในการปรับตัว สงครามและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการค้าระหว่างประเทศ ทำให้เกิดการปิดกั้นเส้นทางการค้า การเพิ่มขึ้นของภาษีนำเข้า และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

นอกจากนี้ ภาษียังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการค้าอาหารและเครื่องดื่ม การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรหรือวัตถุดิบอาหาร ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ธุรกิจอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายและความสามารถในการแข่งขันในตลาด

การวิจัยยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความเสี่ยง ธุรกิจควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงโดยการหาแหล่งวัตถุดิบจากหลายแหล่ง การพัฒนาห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น การลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า การเตรียมความพร้อมด้านการเงินก็เป็นสิ่งสำคัญ ธุรกิจควรมีเงินทุนสำรองเพียงพอเพื่อรองรับความผันผวนของตลาดและสถานการณ์ฉุกเฉิน

การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม การติดตามข่าวสารและการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถคาดการณ์และเตรียมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การลงทุนในระบบเทคโนโลยีเช่น #โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร #ระบบจัดการร้านอาหาร จะช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการต้นทุน ควบคุมสต็อกสินค้า และวิเคราะห์ข้อมูลการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว

ในยุคที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มสูงขึ้น การเตรียมความพร้อมและการปรับตัวอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม การมองการณ์ไกลและการลงทุนในกลยุทธ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจสามารถรับมือกับความท้าทายและคว้าโอกาสในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน