**บริษัทเครื่องดื่มเน้นกลยุทธ์ราคาประหยัดเพื่อรักษาลูกค้า ท่ามกลางภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้น**
ภาษีนำเข้าที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลายประเภท รวมถึงเครื่องดื่ม เพื่อรักษาฐานลูกค้าในสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนเช่นนี้ บริษัทเครื่องดื่มหลายแห่งจึงเริ่มปรับกลยุทธ์ โดยหันมาเน้นการนำเสนอสินค้าในราคาที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น
จากบทความของ Food Dive (https://www.fooddive.com/news/keurig-dr-pepper-kcup-pods-inflation-tariffs-coffee-demand-sales/747405/) ยกตัวอย่างกรณีศึกษาของ Keurig Dr Pepper (KDP) ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ เผชิญกับความท้าทายจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น รวมถึงภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น KDP เลือกที่จะรับมือกับสถานการณ์นี้ด้วยการนำเสนอส่วนลดและโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อให้สินค้ายังคงอยู่ในราคาที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้ เช่น การจัดโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 หรือลดราคาสินค้าบางรายการ เพื่อกระตุ้นยอดขายและรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด
นอกจาก KDP แล้ว บริษัทเครื่องดื่มอื่นๆ ก็เริ่มใช้กลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกัน เช่น การปรับขนาดบรรจุภัณฑ์ให้เล็กลงเพื่อควบคุมราคา การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในราคาที่ย่อมเยากว่า หรือการเน้นการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่มักจะมีราคาถูกกว่า
กลยุทธ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของบริษัทเครื่องดื่มในการรักษาฐานลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีความอ่อนไหวต่อราคา ในสภาวะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ การนำเสนอสินค้าในราคาประหยัดจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดได้
อย่างไรก็ตาม การมุ่งเน้นราคาประหยัดเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในระยะยาว บริษัทเครื่องดื่มจำเป็นต้องพัฒนากลยุทธ์อื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
ตัวอย่างเช่น การใช้ระบบ POS (Point of Sale) ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยในการจัดการร้านค้า สามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ระบบ POS ช่วยในการบันทึกข้อมูลการขาย จัดการสินค้าคงคลัง ติดตามยอดขาย และวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด ปรับปรุงการบริการ และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว
นอกจากนี้ การนำระบบจัดการร้านอาหารมาใช้ ก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการร้านอาหาร ตั้งแต่การรับออเดอร์ การจัดการครัว การจัดการโต๊ะ การคิดเงิน และการจัดการสต็อกสินค้า ช่วยลดข้อผิดพลาด ประหยัดเวลา และเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน
ในยุคที่การแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มรุนแรง บริษัทต่างๆ จึงต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน
#เครื่องแคชเชียร์ #โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร