โคคา-โคลา ภายใต้แรงกดดันจากกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หลังปรับลดเป้าหมายด้านบรรจุภัณฑ์
โคคา-โคลา บริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ กำลังเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หลังจากที่บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายด้านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมลง การเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความกังวลเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของโคคา-โคลาในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาขยะพลาสติก ซึ่งโคคา-โคลาถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตขยะพลาสติกรายใหญ่ที่สุดของโลก
รายงานจากองค์กร Oceana ที่เผยแพร่ในเดือนมีนาคม 2567 ระบุว่า โคคา-โคลาผลิตขวดพลาสติกใหม่เพิ่มขึ้นถึง 9 พันล้านขวดในปี 2565 แม้ว่าบริษัทจะประกาศเป้าหมายในการใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล แต่ตัวเลขดังกล่าวกลับสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการลดการพึ่งพาพลาสติก Oceana ตั้งข้อสังเกตว่าโคคา-โคลา ยังคงเน้นการผลิตขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเป็นหลัก ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อมหาสมุทรและสิ่งแวดล้อม
เดิมทีโคคา-โคลาตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2573 บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทจะสามารถนำกลับมารีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% อย่างไรก็ตาม โคคา-โคลาได้ปรับลดเป้าหมายดังกล่าวลง โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มสัดส่วนของวัสดุรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์แทน การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นการถอยหลังจากความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหามลพิษพลาสติกอย่างจริงจัง
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแสดงความกังวลว่า การปรับลดเป้าหมายของโคคา-โคลา อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าบริษัทกำลังให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม พวกเขายังเรียกร้องให้โคคา-โคลาลงทุนในระบบการนำขวดกลับมาใช้ใหม่ที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการลดการผลิตขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการที่โคคา-โคลาสนับสนุนโครงการรีไซเคิลที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ได้ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
โคคา-โคลา อ้างว่า บริษัทกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน และได้ลงทุนในเทคโนโลยีรีไซเคิล รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังคงมองว่า ความพยายามของโคคา-โคลา ยังไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น พวกเขาเรียกร้องให้โคคา-โคลาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง และดำเนินการที่เป็นรูปธรรมมากกว่าการตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจนหรือการปรับลดเป้าหมายลง ซึ่งถือเป็นการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่บริษัทมีส่วนสร้างขึ้น
การต่อสู้ระหว่างโคคา-โคลาและกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ยังคงดำเนินต่อไป และสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างผลกำไรทางธุรกิจและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ผู้บริโภคเองก็มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้บริษัทต่างๆ รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยการเลือกซื้อสินค้าจากบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และลดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สร้างขยะพลาสติก
ที่มา: https://www.fooddive.com/news/coca-cola-plastic-reusable-packaging-oceana-report-9-billion-sustainability-bottles-trump-tariffs/743841/
#โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร #ระบบจัดการร้านอาหาร