สมาคมผู้บริโภคหวั่นภาษีนำเข้า 10% ซ้ำเติมผู้ผลิตอเมริกัน

**ผลกระทบของนโยบายภาษีนำเข้าแบบต่างตอบแทนของทรัมป์ต่อผู้บริโภคและผู้ผลิตในอเมริกา**

ในช่วงปี 2566 อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอนโยบายการจัดเก็บภาษีนำเข้าแบบต่างตอบแทน (reciprocal tariffs) ซึ่งเป็นการเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่เท่าเทียมกับประเทศคู่ค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการขาดดุลการค้าและปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ นโยบายนี้กำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีนำเข้า 10% สำหรับสินค้าจากทุกประเทศ และภาษีแบบต่างตอบแทนกับ 60 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างจีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และเวียดนาม

อย่างไรก็ตาม สมาคมแบรนด์ผู้บริโภค (Consumer Brands Association – CBA) ได้ออกมาแสดงความกังวลว่านโยบายนี้อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อผู้บริโภคและผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกา โดยการเพิ่มต้นทุนสินค้าอุปโภคบริโภค และสร้างความเสียหายโดยไม่ตั้งใจต่อผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ดังของอเมริกา CBA ระบุว่าการขึ้นภาษีนำเข้าจะส่งผลให้ราคาสินค้าต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น เป็นภาระแก่ผู้บริโภคชาวอเมริกัน นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ผู้ผลิตในสหรัฐฯ เสียเปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งจากต่างประเทศ เนื่องจากต้องแบกรับต้นทุนวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางที่สูงขึ้น

บทความจาก Food Dive ได้วิเคราะห์ว่านโยบายภาษีนำเข้าแบบต่างตอบแทนนี้ อาจไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวงกว้าง การขึ้นภาษีนำเข้าอาจนำไปสู่สงครามการค้ากับประเทศคู่ค้า ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการส่งออกของสหรัฐฯ และทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง นอกจากนี้ นโยบายดังกล่าวยังอาจขัดต่อกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งอาจนำไปสู่ข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศได้

ผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหาร การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าต่างๆ เช่น วัตถุดิบในการปรุงอาหาร เครื่องดื่ม และอุปกรณ์ต่างๆ จะส่งผลให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารเพิ่มสูงขึ้น เจ้าของร้านอาหารอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาอาหารเพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และอาจทำให้ยอดขายลดลง ธุรกิจร้านอาหารจำเป็นต้องปรับตัวและวางแผนกลยุทธ์ในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การมองหาแหล่งวัตถุดิบทดแทนในประเทศ การเจรจาต่อรองราคาสินค้ากับซัพพลายเออร์ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เช่น ระบบ POS เพื่อควบคุมต้นทุนและสต็อกสินค้าได้อย่างแม่นยำ

ในขณะที่นโยบายภาษีนำเข้าแบบต่างตอบแทนมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศและลดการขาดดุลการค้า แต่ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคและผู้ผลิตในสหรัฐฯ รวมถึงความเสี่ยงต่อสงครามการค้า เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การดำเนินนโยบายการค้าระหว่างประเทศจำเป็นต้องคำนึงถึงผลกระทบในวงกว้างและความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศคู่ค้า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจของประเทศ

อ้างอิง:

https://www.fooddive.com/news/trump-reciprocal-tariffs-china-japan-eu-vietnam/744309/

#โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร #ระบบร้านอาหาร

Categories: Uncategorized
X