ผลกระทบ EUDR ต่อบรรจุภัณฑ์กระดาษชัดเจนแค่ไหน

## ผลกระทบของกฎหมาย EUDR ต่อบรรจุภัณฑ์กระดาษ: ความชัดเจนและความท้าทาย

กฎหมายว่าด้วยการตัดไม้ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่าของสหภาพยุโรป (European Union Deforestation Regulation หรือ EUDR) ส่งผลกระทบต่อสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภท รวมถึงไม้ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษ แต่ผลกระทบที่แท้จริงต่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษนั้นมีความชัดเจนเพียงใด? บทความนี้จะวิเคราะห์ผลกระทบของ EUDR ต่อบรรจุภัณฑ์กระดาษ โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Food Navigator และพิจารณาความท้าทายที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญ

EUDR มีวัตถุประสงค์เพื่อลดการตัดไม้ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่าที่เชื่อมโยงกับสินค้าที่วางจำหน่ายในตลาดสหภาพยุโรป โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องแสดงหลักฐานว่าสินค้าของตนไม่ได้มาจากพื้นที่ป่าที่ถูกทำลายหรือเสื่อมโทรมหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2565 กฎหมายนี้ครอบคลุมสินค้าหลายประเภท เช่น เนื้อวัว, ถั่วเหลือง, น้ำมันปาล์ม, กาแฟ, โกโก้, ยางพารา และไม้ ซึ่งหมายความว่าบรรจุภัณฑ์กระดาษที่ผลิตจากไม้ก็อยู่ภายใต้ขอบเขตของ EUDR ด้วย

สำหรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษ EUDR สร้างความท้าทายในการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของวัตถุดิบ ผู้ประกอบการต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม้ที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์มาจากแหล่งที่ยั่งยืนและถูกกฎหมาย ซึ่งต้องอาศัยระบบการตรวจสอบย้อนกลับที่เข้มงวดและครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน

ตามรายงานของ Food Navigator [https://www.foodnavigator.com/Article/2025/01/29/eudrs-impact-on-paper-packaging/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS](https://www.foodnavigator.com/Article/2025/01/29/eudrs-impact-on-paper-packaging/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS) ความซับซ้อนของห่วงโซ่อุปทานกระดาษเป็นอุปสรรคสำคัญในการปฏิบัติตาม EUDR กระดาษมักผ่านกระบวนการผลิตและแปรรูปหลายขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกต้นไม้ การตัดไม้ การผลิตเยื่อกระดาษ การผลิตกระดาษ และการแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ ทำให้การติดตามแหล่งที่มาของวัตถุดิบเป็นเรื่องยาก

นอกจากนี้ EUDR ยังกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องจัดทำ “Due Diligence” ซึ่งเป็นกระบวนการประเมินความเสี่ยงและวางมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงที่สินค้าของตนจะเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเพิ่มภาระในการบริหารจัดการและต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ

อย่างไรก็ตาม EUDR ก็มีโอกาสที่จะกระตุ้นให้อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษมุ่งสู่ความยั่งยืนมากขึ้น โดยการส่งเสริมการใช้ไม้จากแหล่งที่ได้รับการรับรอง เช่น Forest Stewardship Council (FSC) หรือ Programme for the Endorsement of Forest Certification (PEFC) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่รับรองการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน

ในระยะยาว EUDR คาดว่าจะส่งผลให้บรรจุภัณฑ์กระดาษที่มีความยั่งยืนเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น และผู้ประกอบการที่สามารถปรับตัวและปฏิบัติตามกฎหมายได้ก็จะได้เปรียบในการแข่งขัน

ความท้าทายที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยคือการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตาม EUDR ซึ่งรวมถึงการพัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับ การจัดทำ Due Diligence และการแสวงหาแหล่งวัตถุดิบที่ยั่งยืน การปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในตลาดสหภาพยุโรป

#โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร #ระบบร้านอาหาร

Categories: Uncategorized
X