## FDA เสนอมาตรการติดฉลากโภชนาการรูปแบบใหม่บนบรรจุภัณฑ์อาหาร หวังสู้โรคเรื้อรัง
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้เสนอมาตรการกำหนดให้มีการติดฉลากข้อมูลโภชนาการรูปแบบใหม่ที่ด้านหน้าบรรจุภัณฑ์อาหาร โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น และหวังว่าจะช่วยลดอัตราการเกิดโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับอาหาร เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัญหาสาธาสุขภาพที่สำคัญในสหรัฐอเมริกา
มาตรการที่เสนอนี้เรียกว่า “ฉลากโภชนาการที่เห็นได้ชัดเจน” (Proposed Front-of-Package Labeling) จะเป็นการแสดงข้อมูลโภชนาการสำคัญๆ ในรูปแบบตารางที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายที่ด้านหน้าของบรรจุภัณฑ์ โดยจะแสดงปริมาณแคลอรี่ ไขมันอิ่มตัว โซเดียม และน้ำตาลที่เพิ่มเข้าไป รวมถึงสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น ใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งแตกต่างจากฉลากโภชนาการแบบเดิมที่มักจะอยู่ด้านหลังหรือด้านข้างของบรรจุภัณฑ์และมีข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้บริโภคหลายคนไม่เข้าใจหรือไม่ใส่ใจ
FDA เชื่อว่าการแสดงข้อมูลโภชนาการที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายที่ด้านหน้าบรรจุภัณฑ์จะช่วยให้ผู้บริโภคเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ดีขึ้นในระยะยาว และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
การเสนอมาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระดับชาติของสหรัฐอเมริกาในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเรื้อรัง โดย FDA ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ผู้ผลิตอาหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ และกลุ่มผู้บริโภค เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับไปปรับปรุงและพัฒนามาตรการให้มีประสิทธิภาพสูงสุดก่อนที่จะประกาศใช้จริง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่ผู้ผลิตอาหารจะต้องปรับปรุงฉลากบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับมาตรการใหม่นี้
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบางฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ผลิตอาหารบางราย ที่กังวลว่ามาตรการนี้อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายของผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณน้ำตาล ไขมัน หรือโซเดียมสูง นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับต้นทุนในการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งอาจเป็นภาระสำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก
FDA ยืนยันว่ามาตรการนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อห้ามการขายอาหารใดๆ แต่เป็นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนแก่ผู้บริโภค เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดสินใจเลือกอาหารได้อย่าง consapevole และมีสุขภาพที่ดีขึ้น
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารอย่างมาก โดยผู้ผลิตอาหารจำเป็นต้องปรับปรุงสูตรอาหารและบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับมาตรการใหม่ และอาจต้องลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อจัดการข้อมูลโภชนาการและการติดฉลาก รวมถึงระบบการจัดการร้านอาหาร และโปรแกรมร้านอาหาร เพื่อให้สามารถปรับตัวและแข่งขันในตลาดได้ ในขณะเดียวกัน ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และธุรกิจบริการอาหารอื่นๆ ก็จำเป็นต้องปรับตัวและเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน โดยอาจต้องปรับปรุงระบบการจัดการสินค้าคงคลัง ระบบPOS และระบบการแสดงข้อมูลโภชนาการแก่ลูกค้า
ที่มา: https://www.fooddive.com/news/fda-proposes-front-of-pack-nutritional-info-box/737306/
#โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร #ระบบร้านอาหาร