## ไข่แพงอีก! ไข้หวัดนกระบาดหนัก ฉุดราคาพุ่ง 20%
กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) คาดการณ์ว่าราคาไข่ไก่สำหรับผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นอีก 20% ในปีนี้ สืบเนื่องจากการระบาดของโรคไข้หวัดนกที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อฟาร์มสัตว์ปีกเชิงพาณิชย์ การระบาดครั้งนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไข่ไก่อย่างหนัก นำไปสู่การลดลงของปริมาณไข่ไก่ในตลาดและราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความกังวลให้กับทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ
ตามรายงานของ Food Dive (https://www.fooddive.com/news/egg-prices-increase-record-bird-flu/738624/) การระบาดของไข้หวัดนกในปีนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา มีการกำจัดไก่ไข่ไปแล้วหลายสิบล้านตัวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ผลกระทบที่ตามมาคือปริมาณไข่ไก่ในตลาดลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ราคาไข่ไก่พุ่งสูงขึ้นทำลายสถิติในหลายพื้นที่
ราคาไข่ไก่ที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ค่าครองชีพโดยรวมก็สูงขึ้นอยู่แล้ว ผู้บริโภคหลายรายต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค เช่น ลดปริมาณการซื้อไข่ไก่ หรือหันไปบริโภคอาหารอื่นทดแทน
นอกจากผู้บริโภคแล้ว ผู้ประกอบการร้านอาหาร เบเกอรี่ และธุรกิจอื่นๆ ที่ใช้ไข่ไก่เป็นวัตถุดิบหลักก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นบีบให้ผู้ประกอบการต้องปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายและผลกำไรในระยะยาว
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบห่วงโซ่อุปทานอาหาร การระบาดของโรคระบาดในสัตว์ ภัยธรรมชาติ และปัจจัยอื่นๆ สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการผลิตและราคาอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน
USDA และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมการระบาดของไข้หวัดนก และบรรเทาผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไข่ไก่ รวมถึงการสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ และการส่งเสริมมาตรการป้องกันโรคในฟาร์มสัตว์ปีก อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาไข่ไก่จะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าสถานการณ์การระบาดของโรคจะคลี่คลายลง
ในระยะยาว การพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนกในไก่ และการปรับปรุงระบบการเลี้ยงไก่ให้มีความปลอดภัยทางชีวภาพมากขึ้น จะเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันการระบาดของโรคในอนาคต และสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประชาชน
สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร การใช้ #ระบบposร้านอาหาร #โปรแกรมร้านอาหาร และ #ระบบจัดการร้านอาหาร สามารถช่วยในการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ ควบคุมสต็อกสินค้า และวิเคราะห์ยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับความผันผวนของราคาสินค้า และรักษาความสามารถในการแข่งขันในภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายเช่นนี้.