ผลกระทบข้อตกลงการค้าอียู-อังกฤษต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

## ผลกระทบของข้อตกลงการค้าระหว่างสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

ข้อตกลงการค้าและความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร (TCA) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม แม้ว่าข้อตกลงนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างกัน แต่ก็ได้สร้างอุปสรรคใหม่ๆ ในด้านพิธีการศุลกากร กฎระเบียบด้านสุขอนามัย และกฎเกณฑ์ต่างๆ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มทั้งสองฝั่ง

**ความท้าทายใหม่สำหรับผู้ส่งออก:**

สำหรับผู้ส่งออกจากสหราชอาณาจักรไปยังสหภาพยุโรป ข้อตกลง TCA กำหนดให้ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานต่างๆ ของสหภาพยุโรป รวมถึงการตรวจสอบสุขอนามัยพืชและสัตว์ การขอใบรับรองสุขอนามัย และการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้อง สิ่งเหล่านี้สร้างภาระต้นทุนและความล่าช้าในการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง

ในขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกจากสหภาพยุโรปไปยังสหราชอาณาจักรก็ต้องเผชิญกับความท้าทายที่คล้ายคลึงกัน แม้จะไม่ต้องเสียภาษี แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจแตกต่างจากกฎระเบียบของสหภาพยุโรป ทำให้เกิดความซับซ้อนและเพิ่มต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ

**ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน:**

ข้อตกลง TCA ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานอาหารและเครื่องดื่มอย่างมีนัยสำคัญ การตรวจสอบสินค้าที่เข้มงวดขึ้นที่ด่านศุลกากรนำไปสู่ความล่าช้าในการขนส่ง ส่งผลให้สินค้าเน่าเสียได้ง่าย เช่น ผลิตภัณฑ์สด เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล มีความเสี่ยงสูงที่จะเสียหายระหว่างการขนส่ง นอกจากนี้ ต้นทุนโลจิสติกส์ที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น ค่าขนส่ง ค่าจัดเก็บ และค่าดำเนินการศุลกากร ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ

**โอกาสใหม่และการปรับตัว:**

แม้ว่าข้อตกลง TCA จะสร้างความท้าทาย แต่ก็เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจที่สามารถปรับตัวได้ เช่น การมุ่งเน้นตลาดภายในประเทศ การขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากสหภาพยุโรป และการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน เช่น ระบบติดตามสินค้า ระบบจัดการคลังสินค้า และระบบการขนส่ง ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในยุคหลัง Brexit

**บทบาทของเทคโนโลยีในการลดผลกระทบ:**

การนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เช่น **โปรแกรมร้านอาหาร** **ระบบPOSร้านอาหาร** และ **เครื่องแคชเชียร์** สามารถช่วยลดผลกระทบจากข้อตกลง TCA ได้ ระบบเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการสต็อกสินค้า ติดตามคำสั่งซื้อ และบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อนในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มความแม่นยำในการคำนวณต้นทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดราคาสินค้าและรักษาความสามารถในการแข่งขัน

ในยุคที่การค้าระหว่างประเทศมีความซับซ้อนมากขึ้น การปรับตัวและการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่จะประสบความสำเร็จ ธุรกิจที่สามารถปรับตัวเข้ากับกฎระเบียบใหม่ บริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี จะเป็นผู้ที่สามารถเอาชนะความท้าทายและคว้าโอกาสในตลาดหลัง Brexit ได้

ที่มา: [https://www.foodnavigator.com/Article/2025/05/19/what-does-the-eu-and-uk-trade-deal-mean-for-food-and-drink/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS](https://www.foodnavigator.com/Article/2025/05/19/what-does-the-eu-and-uk-trade-deal-mean-for-food-and-drink/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS)

#เครื่องแคชเชียร์ #โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบPOSร้านอาหาร