**ยุโรปถอดใจ Nutriscore: ระบบติดฉลากอาหารที่ซับซ้อนเกินจะนำไปใช้**

สหภาพยุโรปได้ยุติความพยายามในการบังคับใช้ Nutriscore ระบบติดฉลากอาหารแบบให้คะแนนตามคุณค่าทางโภชนาการ หลังจากพยายามผลักดันมานานหลายปี ความซับซ้อนในการบังคับใช้และเสียงคัดค้านจากหลายภาคส่วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการนี้ต้องยุติลง (อ้างอิง: https://www.foodnavigator.com/Article/2025/03/04/has-the-european-commission-abandoned-nutriscore/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS)

Nutriscore คือระบบติดฉลากอาหารที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น โดยใช้ตัวอักษร A ถึง E และสีต่างๆ เพื่อบ่งบอกถึงคุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์ A สีเขียวเข้ม หมายถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่สุด ส่วน E สีแดงเข้มหมายถึงอาหารที่ควรบริโภคให้น้อยที่สุด ระบบนี้คำนวณคะแนนจากปริมาณสารอาหารที่พึงประสงค์ เช่น โปรตีน ไฟเบอร์ และปริมาณสารอาหารที่ไม่พึงประสงค์ เช่น น้ำตาล ไขมันอิ่มตัว และโซเดียม

แม้ว่า Nutriscore จะได้รับการสนับสนุนจากหลายประเทศในยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี และสเปน แต่ก็มีเสียงคัดค้านอย่างหนักจากประเทศอื่นๆ เช่น อิตาลี อิตาลีโต้แย้งว่าระบบนี้ไม่เป็นธรรมต่ออาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอุดมไปด้วยน้ำมันมะกอกและชีส ซึ่งถึงแม้จะมีไขมันสูง แต่ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่า Nutriscore อาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด และเลือกอาหารแปรรูปที่มีคะแนนดีกว่าอาหารธรรมชาติ

ความซับซ้อนในการบังคับใช้ Nutriscore ก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญ การกำหนดเกณฑ์การให้คะแนนและการตรวจสอบความถูกต้องของฉลากอาหารเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสูตรอาหารเพื่อให้ได้คะแนน Nutriscore ที่ดีขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้คุณภาพทางโภชนาการโดยรวมลดลง

การยุติโครงการ Nutriscore สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการสร้างระบบติดฉลากอาหารที่ครอบคลุมและเป็นธรรม แม้ว่าเป้าหมายของ Nutriscore คือการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน แต่ความซับซ้อนและข้อโต้แย้งต่างๆ ทำให้การนำไปใช้เป็นไปได้ยาก สหภาพยุโรปยังคงมองหาระบบติดฉลากอาหารทางเลือกอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม การสร้างระบบดังกล่าวต้องอาศัยการพิจารณาอย่างรอบคอบ ถึงผลกระทบต่อผู้บริโภค ผู้ผลิต และเศรษฐกิจโดยรวม

การตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของนโยบาย ระบบการติดฉลากอาหารยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและตัดสินใจเลือกอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

#โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร #ระบบจัดการร้านอาหาร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *