**แบรนด์สินค้าเก่าแก่เผชิญวิกฤต: ต้นทุนพุ่ง-พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน-กฎระเบียบเข้มงวด**

สินค้าที่คุ้นเคยและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมานานหลายชั่วอายุคนกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ จากการวิเคราะห์ของ Keren Novak จาก Curion ในบทความของ Food Dive พบว่าแบรนด์สินค้าเก่าแก่เหล่านี้กำลังถูกกดดันจากปัจจัยหลัก 3 ประการ ได้แก่ ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น

**ต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น:** ราคาของวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ พลังงาน และค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตของแบรนด์สินค้าเก่าแก่ หลายแบรนด์ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ไว้เอง เพื่อรักษาฐานลูกค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อกำไรในระยะยาว บางแบรนด์เลือกที่จะขึ้นราคาสินค้า ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคบางส่วนเปลี่ยนไปซื้อสินค้าอื่นที่ราคาถูกกว่า

**พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง:** ผู้บริโภคในปัจจุบันมีความตระหนักเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พวกเขาหันมาสนใจสินค้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ สินค้าออร์แกนิก และสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมองหาสินค้าที่มีความหลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของตนเองมากขึ้น แบรนด์สินค้าเก่าแก่ที่ไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อาจสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับแบรนด์ใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ดีกว่า

**กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น:** หน่วยงานกำกับดูแลมีแนวโน้มที่จะออกกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น เกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร ส่วนผสม ฉลากสินค้า และการโฆษณา แบรนด์สินค้าเก่าแก่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎระเบียบใหม่ๆ ซึ่งอาจต้องลงทุนเพิ่มเติมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงกระบวนการผลิต และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาด การไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้อาจนำไปสู่การถูกปรับ เสียชื่อเสียง และสูญเสียความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค

เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ แบรนด์สินค้าเก่าแก่จำเป็นต้องปรับตัว และพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค การปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุน การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำการตลาด และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภค การปรับตัวอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะเป็นกุญแจสำคัญในการอยู่รอดและเติบโตในตลาดที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้

นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารจัดการร้านค้าก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เช่น การใช้ระบบ POS (Point of Sale) เพื่อช่วยในการจัดการสินค้า ควบคุมสต๊อก วิเคราะห์ยอดขาย และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุน และเพิ่มยอดขาย

ที่มา: https://www.fooddive.com/news/snacks-food-discontinued-ingredients-inflation-oped/747113/

#โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร #ระบบจัดการร้านอาหาร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *