## ยุทธศาสตร์การตลาดอาหาร: คราฟท์-ไฮนซ์, ฮอร์เมล และกระแสบาร์บีคิว
ในโลกธุรกิจอาหารที่การแข่งขันดุเดือด แบรนด์ต่างๆ ต้องไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาสินค้าและกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค บทความนี้จะพาไปสำรวจแนวทางการตลาดที่น่าสนใจของสองยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหาร คือ คราฟท์-ไฮนซ์ และ ฮอร์เมล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกาะกระแสบาร์บีคิว และการนำเนยถั่วสกิปปี้มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่
ช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาแห่งการสังสรรค์กลางแจ้ง และบาร์บีคิวก็เป็นกิจกรรมยอดนิยม คราฟท์-ไฮนซ์ เล็งเห็นโอกาสนี้ จึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเวลาดังกล่าว (อ้างอิงจาก Food Dive) เช่น ซอสบาร์บีคิวของ Heinz ที่นำเสนอรสชาติหลากหลาย เพื่อเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูบาร์บีคิว นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เข้ากับบรรยากาศบาร์บีคิว เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ Pringles รสชาติใหม่ และเครื่องดื่ม Miller Lite ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นในช่วงฤดูร้อน
ในขณะที่ คราฟท์-ไฮนซ์ เน้นการจับกระแสบาร์บีคิว ฮอร์เมล เลือกใช้กลยุทธ์ที่แตกต่าง ด้วยการนำแบรนด์เนยถั่วชื่อดังอย่าง “สกิปปี้” มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ Skippy Protein Wafer Bars (อ้างอิงจาก Food Dive) เวเฟอร์บาร์โปรตีนสูงที่ใช้เนยถั่วสกิปปี้เป็นส่วนประกอบหลัก กลยุทธ์นี้เป็นการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ และต้องการอาหารว่างที่ให้โปรตีนสูง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน การใช้แบรนด์สกิปปี้ที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอยู่แล้ว ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
จะเห็นได้ว่า ทั้ง คราฟท์-ไฮนซ์ และ ฮอร์เมล ต่างเลือกใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกัน แต่มีจุดร่วมที่สำคัญ คือ การเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเกาะกระแสความนิยม หรือการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แตกต่าง การปรับตัวและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในอุตสาหกรรมอาหารที่แข่งขันสูงเช่นนี้ นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว การใช้เทคโนโลยีอย่าง #ระบบposร้านอาหาร เพื่อบริหารจัดการร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่นกัน ระบบ POS ที่ดีจะช่วยให้การรับออเดอร์ การจัดการสต็อก และการวิเคราะห์ยอดขายเป็นไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
#โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบร้านอาหาร