“ย่อแต่ราคาไม่ย่อ? แบรนด์ดังเสี่ยงสูญเสียความเชื่อมั่น ผู้บริโภคเริ่มไม่ทน Shrinkflation”

## “Shrinkflation” ภัยเงียบที่กัดกินความเชื่อมั่น: แบรนด์ดังเสี่ยงสูญเสียลูกค้าจากการลดปริมาณสินค้า

ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคต่างมองหาวิธีประหยัดเงินในทุกวิถีทาง แต่ในขณะเดียวกัน แบรนด์สินค้าหลายแห่งกลับใช้วิธี “Shrinkflation” หรือการลดปริมาณสินค้าลงโดยที่ยังคงราคาเดิมไว้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่กำลังสร้างความไม่พอใจและกัดกร่อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอย่างเงียบๆ

**Shrinkflation คืออะไร?**

Shrinkflation เป็นคำที่เกิดจากการผสมคำว่า “Shrink” (ลดขนาด) และ “Inflation” (ภาวะเงินเฟ้อ) หมายถึงการที่ผู้ผลิตลดปริมาณสินค้าในบรรจุภัณฑ์ลง แต่ยังคงขายในราคาเดิม หรืออาจมีการปรับราคาขึ้นเพียงเล็กน้อย จนผู้บริโภคอาจไม่ทันสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ ตัวอย่างเช่น ช็อกโกแลตแท่งที่เคยมีน้ำหนัก 100 กรัม ถูกลดลงเหลือ 90 กรัม แต่ยังคงขายในราคาเดิม หรือขนมขบเคี้ยวที่บรรจุในห่อที่มีขนาดเล็กลง แต่ราคายังคงเท่าเดิม

**ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค**

ในอดีต Shrinkflation อาจเป็นกลยุทธ์ที่แบรนด์สามารถใช้เพื่อรักษาผลกำไรโดยไม่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงการขึ้นราคาโดยตรง แต่ในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีความตื่นตัวและเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น Shrinkflation กลับกลายเป็นดาบสองคมที่ทำร้ายความเชื่อมั่นและความภักดีต่อแบรนด์

* **ความรู้สึกถูกเอาเปรียบ:** ผู้บริโภครู้สึกว่าตนเองถูกเอาเปรียบเมื่อรับรู้ว่าปริมาณสินค้าที่ได้รับลดลง แต่ต้องจ่ายเงินในราคาเดิม
* **การสูญเสียความภักดีต่อแบรนด์:** เมื่อผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์ไม่ซื่อสัตย์และพยายามซ่อนการขึ้นราคา พวกเขาอาจมองหาทางเลือกอื่นที่ให้ความคุ้มค่ากว่า
* **การหันไปหาแบรนด์ทางเลือก:** แบรนด์สินค้าเฮาส์แบรนด์ (Private Label) หรือแบรนด์ทางเลือกอื่นๆ มักเสนอสินค้าที่มีราคาถูกกว่าและปริมาณที่มากกว่า ทำให้ผู้บริโภคหันไปให้ความสนใจมากขึ้น

**สินค้าประเภทใดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด?**

Shrinkflation มักเกิดขึ้นในสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มขนมหวาน เครื่องดื่ม และของใช้ในครัวเรือน ตัวอย่างเช่น:

* **ขนมหวาน:** ช็อกโกแลต ลูกอม และขนมขบเคี้ยวต่างๆ
* **เครื่องดื่ม:** น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มอื่นๆ
* **ผลิตภัณฑ์นม:** โยเกิร์ต นม และผลิตภัณฑ์จากนมอื่นๆ
* **ของใช้ในครัวเรือน:** กระดาษชำระ น้ำยาล้างจาน และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่นๆ

**ทางออก: ความโปร่งใสและความซื่อสัตย์**

ในระยะยาว การใช้วิธี Shrinkflation อาจไม่ใช่กลยุทธ์ที่ยั่งยืนสำหรับแบรนด์ต่างๆ ทางออกที่ดีกว่าคือการสร้างความโปร่งใสและความซื่อสัตย์กับผู้บริโภค โดย:

* **สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา:** หากมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณสินค้า ควรแจ้งให้ผู้บริโภคทราบอย่างชัดเจน
* **ให้เหตุผลที่สมเหตุสมผล:** อธิบายเหตุผลที่ทำให้ต้องลดปริมาณสินค้า เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
* **เสนอทางเลือกที่หลากหลาย:** ให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อสินค้าในขนาดและราคาที่แตกต่างกัน
* **เน้นคุณภาพและความคุ้มค่า:** สร้างความเชื่อมั่นว่าสินค้ายังคงมีคุณภาพดีและคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย

**สรุป**

Shrinkflation เป็นกลยุทธ์ที่แบรนด์ควรใช้อย่างระมัดระวัง เพราะอาจส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นและความภักดีของผู้บริโภคในระยะยาว การสร้างความโปร่งใสและความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว

**อ้างอิง:**

* FoodNavigator. (2025, September 22). Shrinkflation backfires: Brands risk customer loyalty in cost-saving strategy. Retrieved from [https://www.foodnavigator.com/Article/2025/09/22/shrinkflation-backfires-brands-risk-customer-loyalty-in-cost-saving-strategy/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS](https://www.foodnavigator.com/Article/2025/09/22/shrinkflation-backfires-brands-risk-customer-loyalty-in-cost-saving-strategy/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS)

#เครื่องคิดเงินposโปรแกรมร้านค้าโปรแกรมร้านอาหารร้านกาแฟระบบศูนย์อาหาร #โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร

**Content Output**

ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม :

* Youtube : [https://link.orderc.app/youtube](https://link.orderc.app/youtube)
* เว็บไซต์ : [https://link.orderc.app/312c3z](https://link.orderc.app/312c3z)
* Contact : [https://qr.link/HMkzJd](https://qr.link/HMkzJd)

Similar Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *