**อุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับมือ EUDR หรือยัง: เมื่อการต่อต้านแข็งแกร่ง แต่ภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรงกว่า**
การต่อต้านกฎระเบียบ EUDR (European Union Deforestation Regulation) หรือ กฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป นั้นมีอย่างหนักแน่นจากหลายภาคส่วน แต่ภัยคุกคามที่แท้จริงที่ EUDR พยายามป้องกันนั้นกลับยิ่งใหญ่มหึมาและส่งผลกระทบในวงกว้างกว่า นั่นคือ ภาวะโลกร้อนที่ถูกเร่งให้รุนแรงขึ้นจากการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งกำลังคุกคามความมั่นคงทางอาหารของโลก
EUDR เป็นกฎหมายของสหภาพยุโรปที่มุ่งควบคุมการนำเข้าสินค้าเกษตรบางชนิด เช่น เนื้อวัว, ถั่วเหลือง, น้ำมันปาล์ม, ไม้, โกโก้, กาแฟ และยางพารา โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องพิสูจน์ว่าสินค้าเหล่านั้นไม่ได้มาจากพื้นที่ที่ถูกตัดไม้ทำลายป่าหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2563 กฎหมายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ
ถึงแม้จะมีจุดประสงค์ที่ดี แต่ EUDR ก็เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะจากประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตร บางประเทศมองว่า EUDR เป็นการกีดกันทางการค้า และสร้างภาระให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปยืนยันว่า EUDR เป็นสิ่งจำเป็นในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงทางอาหารในระยะยาว
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารอย่างร้ายแรง ภัยแล้ง น้ำท่วม และสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ส่งผลให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นและเกิดภาวะขาดแคลนอาหารในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ การตัดไม้ทำลายป่ายังทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของระบบนิเวศและการผลิตอาหาร
ดังที่บทความจาก Food Navigator [https://www.foodnavigator.com/Article/2025/04/22/is-industry-finally-ready-for-eudr/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS](https://www.foodnavigator.com/Article/2025/04/22/is-industry-finally-ready-for-eudr/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS) ได้ชี้ให้เห็น ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมอาหารจะเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของ EUDR และความจำเป็นในการปรับตัว แต่ยังคงมีความท้าทายอีกมากที่ต้องเผชิญ เช่น การสร้างระบบตรวจสอบย้อนกลับที่เชื่อถือได้ การสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย และการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ
ในระยะยาว การปฏิบัติตาม EUDR จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ การลดการตัดไม้ทำลายป่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างความยั่งยืนให้กับระบบการผลิตอาหาร นอกจากนี้ EUDR ยังเป็นโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมอาหารในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
ถึงแม้การต่อต้าน EUDR จะยังคงมีอยู่ แต่ความจำเป็นในการรับมือกับภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการสร้างความมั่นคงทางอาหารนั้นสำคัญยิ่งกว่า การร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบอาหารที่ยั่งยืน
#โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร #ระบบจัดการร้านอาหาร