คราฟท์ ไฮนซ์ มุ่งสู่เป้าหมายอาหารไร้สีสังเคราะห์ในสหรัฐฯ ภายในปี 2570

คราฟท์ ไฮนซ์ (Kraft Heinz) บริษัทผู้ผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ เจ้าของแบรนด์ดังอย่างเจลโล (Jell-O) และคริสตัล ไลท์ (Crystal Light) ประกาศแผนการที่จะเลิกใช้สีสังเคราะห์ในผลิตภัณฑ์อาหารเกือบทั้งหมดที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาภายในปี 2570 โดยปัจจุบัน บริษัทระบุว่าผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอของสหรัฐฯ เกือบ 90% คิดเป็นสัดส่วนตามยอดขายสุทธิ ปราศจากสีสังเคราะห์แล้ว

ตามรายงานของ Food Dive [https://www.fooddive.com/news/kraft-heinz-to-remove-artifical-colors-us-food-products-by-2027/750903/](https://www.fooddive.com/news/kraft-heinz-to-remove-artifical-colors-us-food-products-by-2027/750903/) คราฟท์ ไฮนซ์ กำลังดำเนินการเปลี่ยนแปลงสูตรอาหารของผลิตภัณฑ์ที่เหลืออยู่ โดยจะใช้สีจากธรรมชาติแทน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างชีสแผ่นคราฟท์ แม็คแอนด์ชีส และน้ำสลัด การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปตามกระแสความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และมองหาผลิตภัณฑ์อาหารที่ปราศจากสารเคมีสังเคราะห์

ความเคลื่อนไหวของคราฟท์ ไฮนซ์ สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมอาหารที่กำลังหันมาให้ความสำคัญกับส่วนผสมจากธรรมชาติมากขึ้น ผู้บริโภคยุคใหม่มีความตระหนักถึงผลกระทบของอาหารต่อสุขภาพ และให้ความสำคัญกับความโปร่งใสของข้อมูล พวกเขาต้องการทราบว่าอาหารที่รับประทานเข้าไปประกอบด้วยอะไรบ้าง และต้องการหลีกเลี่ยงสารเคมีสังเคราะห์ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว

การเลิกใช้สีสังเคราะห์ในผลิตภัณฑ์อาหารไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากสีสังเคราะห์มีต้นทุนต่ำกว่าสีจากธรรมชาติ และให้สีที่สม่ำเสมอและคงทนกว่า อย่างไรก็ตาม คราฟท์ ไฮนซ์ มุ่งมั่นที่จะเอาชนะความท้าทายนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์

การเปลี่ยนแปลงสูตรอาหารเพื่อเลิกใช้สีสังเคราะห์ อาจส่งผลต่อรสชาติและลักษณะทางกายภาพของผลิตภัณฑ์บ้าง ดังนั้น คราฟท์ ไฮนซ์ จึงต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ยังคงรสชาติและคุณภาพที่ดี และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค

นอกจากการเลิกใช้สีสังเคราะห์แล้ว คราฟท์ ไฮนซ์ ยังมีแผนที่จะลดปริมาณโซเดียมและน้ำตาลในผลิตภัณฑ์บางรายการ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค

การตัดสินใจของคราฟท์ ไฮนซ์ ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมอาหาร และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตอาหารรายอื่นๆ ให้หันมาให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว

#โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร #ระบบร้านอาหาร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *