คราฟท์ ไฮนซ์ ใช้ AI วัดผลความสำเร็จของนวัตกรรม

คราฟท์ ไฮนซ์ ยักษ์ใหญ่ในวงการอาหารและเครื่องดื่ม กำลังใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อวัดผลความสำเร็จของโครงการริเริ่มต่างๆ และขับเคลื่อนนวัตกรรมภายในองค์กร ทีมงานที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่มีหน้าที่ประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของโครงการที่ใช้ AI โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้าง “ช่องทางนวัตกรรม” หรือ Innovation Funnel เพื่อกรองและพัฒนาไอเดียใหม่ๆ ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่ประสบความสำเร็จในตลาด

จากบทความของ Food Dive ทีม AI ของคราฟท์ ไฮนซ์ ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการนำ AI ไปใช้แก้ปัญหาทางธุรกิจที่เป็นรูปธรรม เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน การปรับปรุงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า

หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นคือการใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลการขาย เพื่อคาดการณ์ความต้องการของตลาด ซึ่งช่วยให้คราฟท์ ไฮนซ์ สามารถจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการสูญเสียจากสินค้าหมดอายุ และเพิ่มโอกาสในการขาย นอกจากนี้ AI ยังถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และแคมเปญการตลาดที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย

ทีม AI ของคราฟท์ ไฮนซ์ ยังทำงานร่วมกับฝ่ายต่างๆ ภายในองค์กร เช่น ฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย และฝ่ายวิจัยและพัฒนา เพื่อระบุโอกาสในการนำ AI ไปใช้ โดยมีการจัดลำดับความสำคัญของโครงการต่างๆ ตามศักยภาพในการสร้างผลตอบแทน และมีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนใน AI นั้นคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด

ความท้าทายอย่างหนึ่งของการนำ AI มาใช้ในองค์กรขนาดใหญ่อย่างคราฟท์ ไฮนซ์ คือการสร้างความเข้าใจและการยอมรับจากพนักงาน ทีม AI จึงให้ความสำคัญกับการสื่อสารและการฝึกอบรม เพื่อให้พนักงานทุกคนเข้าใจถึงประโยชน์และวิธีการใช้ AI รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนการทดลองและการเรียนรู้ เพื่อให้สามารถปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในยุคดิจิทัล

การที่คราฟท์ ไฮนซ์ ให้ความสำคัญกับการวัดผล ROI ของโครงการ AI แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน การสร้างทีมงานเฉพาะด้านและการกำหนดกระบวนการที่ชัดเจนในการประเมินผล เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คราฟท์ ไฮนซ์ สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มศักยภาพ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ในอนาคต คาดว่าคราฟท์ ไฮนซ์ จะยังคงเดินหน้าลงทุนใน AI และนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในด้านต่างๆ มากยิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาสูตรอาหารใหม่ๆ การปรับปรุงกระบวนการผลิต และการสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคลให้กับลูกค้า ซึ่งจะช่วยยกระดับธุรกิจของคราฟท์ ไฮนซ์ ให้ก้าวไปอีกขั้น

ที่มา:

* https://www.fooddive.com/news/kraft-heinz-AI-strategy-use-cases-ROI/751316/

#ระบบposร้านอาหาร #โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบจัดการร้านอาหาร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *