เนสท์เล่ยกเลิกใช้ Nutri-Score ในสวิตเซอร์แลนด์: ทางเลือกใหม่เพื่อการสื่อสารด้านโภชนาการ

เนสท์เล่ประกาศยุติการใช้ Nutri-Score ระบบติดฉลากโภชนาการแบบใช้สี 5 ระดับ บนผลิตภัณฑ์ในสวิตเซอร์แลนด์ โดยหันไปใช้ระบบ Health Star Rating (HSR) ของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แทน การตัดสินใจครั้งนี้สร้างความประหลาดใจ และก่อให้เกิดคำถามถึงอนาคตของ Nutri-Score ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในยุโรป

ตามรายงานของ Food Navigator (อ้างอิง: https://www.foodnavigator.com/Article/2025/05/20/nestle-removes-nutri-score-in-switzerland/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS) เนสท์เล่ให้เหตุผลว่า HSR เป็นระบบที่ครอบคลุมและมีความยืดหยุ่นมากกว่า สามารถนำเสนอข้อมูลด้านโภชนาการที่ละเอียดกว่า Nutri-Score ซึ่งเน้นเพียงการจัดอันดับจาก A ถึง E โดย HSR พิจารณาองค์ประกอบทางโภชนาการที่หลากหลาย ทั้งปริมาณน้ำตาล ไขมันอิ่มตัว โซเดียม ไฟเบอร์ โปรตีน และพลังงาน รวมถึงให้คะแนนพิเศษสำหรับส่วนประกอบที่มีประโยชน์เช่น ผลไม้ ผัก ถั่ว และธัญพืช

อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์มองว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเป็นการหลีกเลี่ยงการติดฉลาก Nutri-Score ระดับต่ำ (D และ E) บนผลิตภัณฑ์บางชนิดของเนสท์เล่ เนื่องจาก HSR คำนึงถึงปัจจัยเชิงบวก ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่เป็นประโยชน์ แม้จะมีน้ำตาลหรือไขมันสูง อาจได้รับคะแนนที่ดีกว่า ตัวอย่างเช่น ซีเรียลอาหารเช้าที่มีน้ำตาลสูง แต่มีธัญพืชเต็มเมล็ด อาจได้คะแนน HSR สูงกว่า Nutri-Score

การเลือกใช้ HSR ของเนสท์เล่ในสวิตเซอร์แลนด์ ยังขัดแย้งกับการสนับสนุน Nutri-Score ในประเทศอื่นๆ ในยุโรป ซึ่งบริษัทได้นำระบบนี้ไปใช้บนผลิตภัณฑ์หลายพันรายการ ทำให้เกิดคำถามถึงความมุ่งมั่นของเนสท์เล่ต่อความโปร่งใสด้านโภชนาการ และความสอดคล้องในการสื่อสารกับผู้บริโภค

การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสะท้อนถึงความท้าทายในการสร้างมาตรฐานการติดฉลากโภชนาการระดับโลก ในขณะที่ Nutri-Score ได้รับความนิยมในยุโรป ประเทศอื่นๆ เช่น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เลือกใช้ HSR ความแตกต่างนี้สร้างความซับซ้อนให้กับผู้ผลิตอาหารข้ามชาติ และอาจสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค

แม้เนสท์เล่จะยืนยันว่า HSR ให้ข้อมูลที่ครอบคลุมกว่า แต่ผลกระทบต่อการเลือกซื้อของผู้บริโภคยังคงต้องติดตามต่อไป คำถามสำคัญคือ HSR จะช่วยให้ผู้บริโภคในสวิตเซอร์แลนด์ ตัดสินใจเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และการตัดสินใจของเนสท์เล่ครั้งนี้ จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของการติดฉลากโภชนาการในอนาคตหรือไม่

สำหรับธุรกิจร้านอาหาร การนำระบบติดฉลากโภชนาการที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย เช่น การแสดงแคลอรี หรือการให้ข้อมูลส่วนผสมอย่างละเอียด สามารถช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกอาหารได้ตรงกับความต้องการ และสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ รวมถึงการใช้ #โปรแกรมร้านอาหาร และ #ระบบposร้านอาหาร ที่มีฟังก์ชั่นรองรับการแสดงข้อมูลโภชนาการ จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

#โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร #เครื่องขายหน้าร้านpos

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *