เนสท์เล่เผยยอดขายเติบโตแข็งแกร่ง แม้เผชิญความท้าทายทางการตลาด

เนสท์เล่ ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าตลาดจะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์

รายงานจาก Food Navigator ระบุว่า เนสท์เล่มีการเติบโตของยอดขายแบบออร์แกนิกที่ 9.3% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.7% โดยยอดขายรวมอยู่ที่ 24.8 พันล้านฟรังก์สวิส การเติบโตนี้เป็นผลมาจากกลยุทธ์การปรับราคาสินค้า การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการเติบโตของปริมาณการขายในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Purina PetCare, Coffee และ Infant Nutrition ที่มีอัตราการเติบโตโดดเด่น

มาร์ค ชไนเดอร์ ซีอีโอของเนสท์เล่ กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรกนี้เป็นการเริ่มต้นปีที่ดี สะท้อนถึงความยืดหยุ่นของธุรกิจและความแข็งแกร่งของแบรนด์ เนสท์เล่ยังคงมุ่งมั่นในการลงทุนเพื่อสร้างนวัตกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์ และขยายธุรกิจในตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้ เนสท์เล่ยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้วัตถุดิบอย่างยั่งยืน และการสนับสนุนชุมชน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและนักลงทุน

แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาสแรกจะเป็นไปในทิศทางบวก แต่เนสท์เล่ยังคงตระหนักถึงความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และความผันผวนของตลาดโลก อย่างไรก็ตาม เนสท์เล่ยังคงมั่นใจในศักยภาพการเติบโตในระยะยาว และคาดการณ์ว่ายอดขายแบบออร์แกนิกจะเติบโตประมาณ 7-8% ในปี 2025

ความสำเร็จของเนสท์เล่ในไตรมาสแรกนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีของการบริหารจัดการธุรกิจในภาวะที่ท้าทาย โดยเน้นการปรับตัว การสร้างนวัตกรรม และการยึดมั่นในกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เนสท์เล่สามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดอาหารและเครื่องดื่มโลกได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจร้านอาหาร การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับเนสท์เล่เป็นสิ่งสำคัญ การนำเทคโนโลยีมาใช้เช่น #ระบบposร้านอาหาร #โปรแกรมร้านอาหาร และ #ระบบจัดการร้านอาหาร สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดต้นทุน และเพิ่มรายได้ เช่น ระบบ POS สามารถช่วยในการจัดการสต็อก ติดตามยอดขาย วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และจัดการโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่มา: https://www.foodnavigator.com/Article/2025/04/24/nestle-q1-2025-sales-report/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *