**ศึก Nutri-score ระหว่างผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกร้อนระอุ ขณะซูเปอร์มาร์เก็ตเรียกร้องให้ติดฉลากมากขึ้น อนาคตของ Nutri-score จะเป็นอย่างไร?**

ระบบ Nutri-score ซึ่งเป็นฉลากโภชนาการแบบ 5 สี ที่แสดงถึงคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร ตั้งแต่ A (ดีที่สุด) ถึง E (แย่ที่สุด) กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในวงการอาหารยุโรป ขณะที่ผู้ค้าปลีกหลายรายผลักดันให้มีการบังคับใช้ Nutri-score อย่างแพร่หลาย ผู้ผลิตอาหารบางรายกลับแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อยอดขายและภาพลักษณ์ของสินค้า

บทความจาก Food Navigator [https://www.foodnavigator.com/Article/2025/04/15/food-manufacturers-and-retailers-at-nutri-score-loggerheads/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS](https://www.foodnavigator.com/Article/2025/04/15/food-manufacturers-and-retailers-at-nutri-score-loggerheads/?utm_source=RSS_Feed&utm_medium=RSS&utm_campaign=RSS) เผยให้เห็นถึงความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นระหว่างผู้ผลิตและผู้ค้าปลีก ซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งในยุโรป เช่น Carrefour, Lidl, และ Sainsbury’s สนับสนุนการใช้ Nutri-score โดยเชื่อว่าจะช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น พวกเขามองว่า Nutri-score เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

ในทางกลับกัน ผู้ผลิตอาหารบางราย โดยเฉพาะผู้ผลิตสินค้าที่มีคะแนน Nutri-score ต่ำ เช่น ผลิตภัณฑ์แปรรูป ขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง แสดงความกังวลว่า Nutri-score อาจทำให้ยอดขายสินค้าของพวกเขาลดลง พวกเขายังโต้แย้งว่า Nutri-score เป็นระบบที่เรียบง่ายเกินไป ไม่สามารถสะท้อนถึงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารได้อย่างครบถ้วน และอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้

ความขัดแย้งนี้ส่งผลให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในหลายประเทศ ขณะที่บางประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เบลเยียม และสเปน ได้นำ Nutri-score มาใช้แล้ว บางประเทศยังคงลังเลที่จะบังคับใช้ โดยกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหาร

อนาคตของ Nutri-score ยังคงไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม กระแสความต้องการความโปร่งใสด้านข้อมูลโภชนาการจากผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น และแรงกดดันจากผู้ค้าปลีก อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้มีการนำ Nutri-score มาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในอนาคต

การนำ Nutri-score มาใช้ อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของร้านค้าปลีกในหลายด้าน เช่น การจัดการสินค้าคงคลัง การจัดวางสินค้าบนชั้นวาง และการฝึกอบรมพนักงาน ระบบ POS (Point of Sale) หรือระบบขายหน้าร้าน จะมีบทบาทสำคัญในการจัดการข้อมูลสินค้า รวมถึงข้อมูล Nutri-score เพื่อให้พนักงานสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ลูกค้าได้ นอกจากนี้ ระบบ POS ยังสามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการขาย เพื่อดูแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค และปรับกลยุทธ์การขายให้เหมาะสม

แม้จะมีข้อโต้แย้ง แต่ Nutri-score ก็เป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยการให้ข้อมูลที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้ออาหาร อนาคตของ Nutri-score จะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ คือ การถกเถียงเรื่องฉลากโภชนาการนี้จะยังคงดำเนินต่อไป และมีผลกระทบต่อทั้งผู้ผลิต ผู้ค้าปลีก และผู้บริโภคอย่างแน่นอน

#โปรแกรมร้านอาหาร #ระบบposร้านอาหาร #ระบบร้านอาหาร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *